ธุรกิจสิ่งทอดิ้นหนีบาทแข็งค่า ตระกูล'พิชิตสิงห์'รุกอสังหาฯอิงBTS-ชูราคาสู้คู่แข่ง

2,019ตระกูล"พิชิตสิงห์" กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ใน "TEX-MART" ธุรกิจผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ดิ้นหนีค่าเงินบาทแข็งค่า กระโจนลงสู่สนามรบในธุรกิจอสังหาฯ แตกบริษัทลูกภายใต้ชื่อ "สยามโฮม" ลงทุนโครงการแรกภายใต้ชื่อ "แอด ซิตี้คอนโดมิเนียม" มูลค่า กว่า3,000ล้านบาท หวังเพิ่มรายได้ของกลุ่ม คาด2-3ปีข้างหน้า รายได้ธุรกิจอสังหาฯ-สิ่งทอส่งออก สัดส่วน50-50 % ด้านฮาริสันฯ แจงส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า BTS เสริมศักยภาพตลาดพื้นที่ พบคนในตระกูลพิชิตสงห์ มีหุ้นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ

นายยัสวินเดอร์ซิงห์ พิชิตสิงห์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท Tex-Mart International ผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์สิ่งทอ (Tex-Mart)ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท สยามโฮม ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะก่อตั้ง บริษัท สยามโฮมฯ ทางกลุ่ม Tex-Mart ได้เข้ามาในแวดวงอสังหาริมทรัพย์เป็นระยะเวลากว่า 10 ปี โดยมีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทปล่อยเช่าเพื่อสร้างรายได้ระยะยาว ซึ่งปัจจุบัน กลุ่ม Tex-Mart มีโครงการประเภทปล่อยเช่าอยู่ในหลายทำเล ประกอบด้วย โครงการเอชบี วิลล่า นิชดาธานี จำนวน 20 ยูนิต โครงการเอชบี วิลล่า สนามกอล์ฟ บูรพา แหลมฉบัง 15 ยูนิต โครงการฮาวายอพาร์ตเมนต์ สุขุมวิทซอย12 จำนวน60 ยูนิต และที่ดินเปล่าปล่อยเช่า บนถนนแจ้งวัฒนะ 7 ไร่ ที่ดินบริเวณสุขุมวิท 93 พื้นที่ 7ไร่ และยังมีที่ดินเปล่าอีก 3-4 แปลงที่ปล่อยเช่าอยู่

ทั้งนี้ ปัจจุบันกลุ่ม Tex-Mart มีรายได้จากการส่งออกผลิตภัณฑ์สิ่งทอประมาณ 500-600 ล้านบาทต่อปี แต่ในระยะ 1-2 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจส่งออกเริ่มได้รับผลกระทบจากการปรับตัวของต้นทุนการขนส่ง และการแข็งค่าของเงินบาท ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัท ซึ่งหากสถานการณ์การแข็งค่าของเงินบาทยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจการส่งออกในประเทศมากยิ่งขึ้น โดยในส่วนของบริษัทนั้น คาดว่าในอนาคตปริมาณการส่งออกจะมีปริมาณลดลงมากขึ้น

ดังนั้น ในระยะ1ปีที่ผ่านมา กลุ่ม Tex-Mart ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยหันมาขยายการลงทุนในธุรกิจอสังหาฯมากขึ้น จากเดิมที่เน้นธุรกิจที่อยู่อาศัยประเภทปล่อยเช่า โดยได้ก่อตั้ง บริษัท สยามโฮมฯ เพื่อเข้ามาพัฒนาโครงการอสังหาฯเพื่อขายอย่างเต็มตัว โดยนโยบายของบริษัทจะเน้นพัฒนาโครงการแนวสูงเป็นหลัก ซึ่งกำหนดตั้งเป้าในช่วง2-3 ปีจากนี้ กลุ่ม Tex-Mart จะมีโครงสร้างรายได้จากธุรกิจอสังหาฯในสัดส่วน 50-50% ตามแผนการลงทุนที่บริษัทวางไว้ และบริษัทคาดว่าผลตอบแทนจากการพัฒนาโครงการอสังหาฯ จะเริ่มสะท้อนกลับเข้ามาเป็นรายรับในช่วงปลายปี2550ต่อเนื่องไปถึงปี2552

สำหรับการลงทุนโครงการแรก มีชื่อว่า โครงการแอด ซิตี้คอนโดมิเนียม สุขุมวิท 101/1 แบ่งการพัฒนาโครงการออกเป็น 2 เฟส คิดเป็นมูลค่าการขายรวม 3,000 ล้านบาท เฟสแรกจะใช้เนื้อที่ในการพัฒนาโครงการประมาณ 7 ไร่เศษ ก่อสร้างเป็นอาคารสูง 14ชั้น2อาคาร 12ชั้น1 อาคาร และ11ชั้น 2 อาคาร รวมจำนวน 168 ยูนิต มูลค่าขาย1,300 ล้านบาท และพื้นที่เชิงพาณิชย์ ประเภทปล่อยขาย คิดเป็นมูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท

"ถือเป็นโครงการแรกที่บริษัทพัฒนาเพื่อขาย บริษัทจึงต้องเน้นเรื่องคุณภาพที่ให้แก่ลูกค้า ตั้งราคาขายถูกกว่าโครงการอื่นในพื้นที่เดียวกัน 20% กล่าวคือ ขาย44,000 บาทต่อตารางเมตร ขณะที่โครงการอื่นราคาขายเริ่มต้นที่ 50,000 กว่าบาทต่อ ตร.ม. พร้อมด้วยทางโครงการได้จัดโปรโมชันห้องชุดทุกห้องราคาเดียว ไม่มีการบวกเพิ่มในพื้นที่ห้องหัวมุมหรือห้องด้านหน้าและด้านหลัง เนื่องจากเราต้องการสร้างชื่อให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า เพราะจุดมุ่งหมายของบริษัท ไม่ได้เข้ามาพัฒนาโครงการเดียวแล้วจบ แต่ต้องการเข้ามาพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยหลังจบการขายในเฟสแรกแล้ว จะขึ้นเฟส2 ทันที คาดจะใช้เนื้อที่ในการพัฒนาประมาณ 10 กว่าไร่ และพัฒนาโครงการในรูปแบบเดียวกัน และหลังจากจบการขายทั้ง2 เฟส แล้ว ทางบริษัทมีแผนการพัฒนาโครงการใหม่ โดยจะนำที่ดินสะสมที่มีอยู่ มาพัฒนาให้เกิดมูลค่าเพิ่ม "

ด้านนายอลัน หลิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฮาริสัน จำกัด (มหาชน) ซึ่งรับหน้าที่บริหารการขายโครงการ กล่าวว่า การแข่งขันในพื้นที่สุขุมวิทช่วงซอย101 เริ่มคึกคักมากขึ้น โดยในปีที่ผ่านมามีการพัฒนาอาคารชุดออกจำหน่ายในพื้นที่ประมาณ 3,000 หน่วย และมีอัตราการระบายที่ต่อเนื่อง เพราะเป็นพื้นที่ศักยภาพที่ได้รับอิทธิพลจากการพัฒนาโครงการรถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยาย ทั้งนี้ ทางฮาริสันฯเข้ามารับบริหารการขายและการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ โครงการให้แก่ บริษัทสยามโฮมฯ โดยตั้งงบประชาสัมพันธ์ไว้ที่ 20ล้านบาท โดยที่ผ่านมา โครงการ แอด ซิตี้คอนโดฯ มียอดขายแล้ว 60% โดยราคาขายเริ่มต้นที่ 1.49 ล้านบาท สำหรับห้องชุด1ห้องนอน ส่วนห้องชุด2ห้องนอน ราคาเริ่มต้นที่ 1.89 ล้านบาท

อนึ่ง ตระกูลพิชิตสงห์ ต้องถือว่าเป็นนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เนื่องจากธุรกิจทางด้านอสังหาฯโดย ตามข้อมูลพบ ณ วันที่ 10 กรกฎาคม 2549 นายยัสวินเดอร์ซิงห์ พิชิตสิงห์ มีหุ้นในบริษัท โพลีเพล็กซ์ จำกัด (มหาชน) ประมาณ 7.7 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 0.96% ขณะที่ นายกุลทีป พิชิตสงห์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามโฮมฯ เป็นอีกบุคคลหนึ่ง ที่วารสารการเงินการธนาคาร ได้จัดให้ติดอันดับบุคคลรวยตัวจริง 500 เศรษฐีหุ้นไทย เมื่อเดือนวันที่ 17 ธ.ค. 2542 และตามข้อมูลเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2549 นายกุลทีป มีหุ้นอยู่ในบริษัท สยามสตีล อินเตอร์เนชั่นแนลฯ ดำเนินธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคและเครื่องใช้ในครัวเรือนและสำนักงาน ในสัดส่วน 3.2 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.54% เป็นต้น 

Kuldip Phichitsingh

https://mgronline.com/stockmarket/detail/9500000064577